วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

คุณค่าและประโยชน์ของเกม

คุณค่าและประโยชน์ของเกม

          การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข การเล่นเกมทำให้เด็กได้ออกกำลังกาย  ช่วยสนองความต้องการของร่างกายตามหลักสรีรวิทยา  การที่เด็กได้มีโอกาสเข้าร่วมเกม เด็กจะได้ฝึกหัดและพัฒนาทัษะซึ่งถือเป็นการพัฒนาการทำงานประสานกันระหว่างประสาทและกล้ามเนื้อนั่นเอง  การทำงานประสานกันระหว่างประสาทกับกล้ามเนื้อนั้น  หมายถึงการที่ร่างกายมีกลไกสามารถเรียนรู้และเคลื่อนไหวได้จังหวะ  กลมกลืน  สง่างาม  ได้ผลดีโดยเปลืองแรงงานแต่น้อย  การเข้าร่วมเกมทำให้เด็กได้มีโอกาสฝึกหัด การฝึกหัดจะทำให้ทักษะการพัฒนายิ่งฝึกมาก  บ่อย ๆ  เป็นประจำสมำ่่่เสมอจะทำให้การพัฒนาเป็นไปได้ดี  เพราะทักษะในการกีฬานี้  เราไมาสามรถจะทำให้มีขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น  ต้องใช้เวลาฝึกหัดและทำซำ้ซากเป็นเวลานานหลายครั้ง  เมื่อมีทักษะเด็กก็จะเล่นได้อย่างสนุกสนาน

          คุณค่าของเกมที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนก็คือ  การฝึกให้เด็กเป็นคนที่มีความตั้งใจในการทำกิจกรรมงานต่าง ๆ  ผลทางด้านกำลังใจของความตั้งใจและอำนาจของมันสามารถแลเห็นได้ในพลังแห่งความคิด ริเริ่มหาหนทางด้วยตนเอง มีความกล้าหาญพอที่จะเผ๙ิญหน้ากับภัยอันตรายต่าง ๆ  พร้อมที่เผ๙ิญหน้ากันคู่ต่อสู้เพื่อทำคะแนนหรือนำชัยชนะให้ได้ 


ประโยชน์ของเกม
           1.ทำให้เด็กได้รับความสนุกสนาน  ร่าเริง  ผ่อนคลายอารมณ์ที่ตึงเคียด
           2.ทำให้เด็กทุกคนได้ร่วมกิจกรรมทางกายเพื่อส่งเสริมทักษะขั้นมูลฐาน
           3.ช่วยส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ถึงวิธีการทำงานและเล่นร่วมกับคนอื่น  ปฏิบัติตามระเบียบและรู้จักใช้ความคิดตนเอง
           4.เปิดฏอกาสให้ครูได้ศึกษาถึงพฤติกรรมที่แท้จริงของเด็ก
           5.ส่งเสริมการเรียนการสอนในวิชาการด้านอื่่น ๆ โดยการนำเอาเกมเข้ามาสอดแทรกทำให้เด็กไม่เบื่อ สร้างความสนใจในการเรียน
           6.สร้างพื้นฐานทักษะทางกีฬาและสมรรถภาพทางกาย  เพื่อการเข้าร่วมในกีฬาประเภทอื่น ๆ


                                                        ที่มา :ประพัฒน์ ลักษณพิสุทธิ์.เกมพลศึกษา.
                                      พิมพ์ครั้งที่ 4.กรุงเทพฯ
                                           

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กีฬาบาวเก็ตบอล

กีฬาบาลเก็ตบอล
          คิดค้นขึ้นในปี พ.ศ. 2434 (ค.ศ. 1891) โดยเจมส์ เนสมิท บาสเกตบอลได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นกีฬาสากล กีฬานี้มีจุดเริ่มต้นจากในวายเอ็มซีเอ  ลีกที่เกิดขึ้นในสมัยแรก ๆ เป็นระดับมหาวิทยาลัย ต่อมากลายเป็นกีฬาอาชีพ   มีการจัดตั้งลีกเอ็นบีเอ (National Basketball Association, NBA) และเริ่มมีการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเมื่อ พ.ศ. 2479 (ค.ศ. 1936)  ถึงแม้ว่าในระยะแรกยังเป็นกีฬาที่เล่นเฉพาะในสหรัฐอเมริกา กีฬาชนิดนี้แพร่ขยายไปสู่ระดับสากลด้วยความรวดเร็ว ปัจจุบันมีนักกีฬาและทีมที่มีชื่อเสียงตามที่ต่าง ๆ ทั่วโลก
บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่เล่นในร่มเป็นหลัก สนามที่ใช้เล่นมีขนาดค่อนข้างเล็ก คะแนนจะได้จากการโยนลูกเข้าห่วงจากด้านบน (ชู้ต, shoot) ทีมที่มีคะแนนมากกว่าในตอนจบเกมจะเป็นฝ่ายชนะ สามารถนำพาลูกโดยการกระเด้งกับพื้น (เลี้ยงลูก, dribble) หรือส่งลูกกันระหว่างเพื่อนร่วมทีม เกมจะห้ามการกระทบกระแทกที่ทำให้เป็นฝ่ายได้เปรียบ (ฟาวล์, foul) และมีกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการครองบอล
เกมบาสเกตบอลมีการพัฒนาเทคนิคการเล่นต่าง ๆ เช่น การชู้ต การส่ง และ การเลี้ยงลูก รวมไปถึงตำแหน่งผู้เล่น (ซึ่งตามกฎแล้วไม่จำเป็นต้องมี) และตำแหน่งการยืนในเกมรุกและเกมรับ ผู้เล่นที่ตัวสูงถือเป็นข้อได้เปรียบ ถึงแม้ว่าในการเล่นแข่งขันจะควบคุมโดยกฎกติกา การเล่นรูปแบบอื่น ๆ สำหรับเล่นผ่อนคลายก็มีการคิดขึ้น บาสเกตบอลยังเป็นกีฬาที่คนนิยมดูอีกด้วย

กีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่ทำให้ผู้เล่นได้รับประโยชน์ดังนี้
๑. ช่วยพัฒนาส่งเสริมสมรรถภาพด้านต่าง ๆ ได้แก่ ร่างกาย จิตใจ สติปัญญา
     อารมณ์และสังคมแก่บุคคล
๒. ช่วยพัฒนาส่งเสริมกลไกการเคลื่อนไหวของร่างกาย (motor skills) ให้ทำงานประสาน
     กันดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมือ เท้า สายตาให้เคลื่อนไหวได้อย่างถูกต้อง
๓. เป็นกิจกรรมนันทนาการสำหรับพักผ่อน คลายความตึงเครียด แก่ผู้เล่นและผู้ชม
๔. ช่วยฝึกการตัดสินใจ และรู้จักคิดแก้ปัญหา ตลอดจนมีสมาธิที่ดี
๕. ช่วยฝึกให้มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้จักแพ้ รู้จักชนะ และรู้จักให้อภัย
๖. ใช้เป็นสื่อนำในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและส่วนรวม
๗. ใช้เป็นสื่อนำในการจัดการกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาพลศึกษา
๘. ผู้เล่นที่มีความสามารถจะทำชื่อเสียงให้แก่ตัวเอง วงศ์ตระกูล และประเทศชาติ
๙. เป็นวิชาชีพด้านหนึ่งสำหรับงานกีฬา เช่น การแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลอาชีพ
    เป็นต้น

ที่มา  http://sontung057.wordpress.com